เมนู

2. ทติยอนุสยสูตร


[12] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุย่อมอยู่ประพฤติพรหมจรรย์
เพื่อละ เพื่อตัดอนุสัย 7 ประการ 7 ประการเป็นไฉน คือ อนุสัย คือ
กามราคะ 1 อนุสัย คือ ปฏิฆะ 1 อนุสัย คือ ทิฏฐิ 1 อนุสัย คือ
วิจิกิจฉา 1 อนุสัย คือ มานะ 1 อนุสัย คือ ภวราคะ 1 อนุสัย คือ
อวิชชา 1 ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุย่อมอยู่ประพฤติพรหมจรรย์
เพื่อละ เพื่อตัดอนุสัย 7 ประการนี้แล ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เมื่อใดแล
ภิกษุละอนุสัยคือกามราคะเสียได้ ตัดรากขาดแล้ว ทำให้เป็นเหมือน
ตาลยอดด้วน ไม่ให้มี ไม่ให้เกิดขึ้นอีกต่อไปเป็นธรรมดา ละอนุสัย
คือ ปฏิฆะ... อนุสัย คือ ทิฏฐิ... อนุสัย คือ วิจิกิจฉา... อนุสัย คือ
มานะ... อนุสัย คือ ภวราคะ... อนุสัย คือ อวิชชาเสียได้ ตัดราก
ขาดแล้ว ทำให้เป็นเหมือนตาลยอดด้วน ไม่ให้มี ไม่ให้เกิดขึ้นอีก
ต่อไป เป็นธรรมดา เมื่อนั้น ภิกษุนี้เรากล่าวว่า ตัณหาได้แล้ว
เพิกถอนสังโยชน์ได้แล้ว กระทำที่สุดทุกข์ได้แล้ว เพราะตรัสรู้
คือละมานะเสียได้โดยชอบ.
จบ ทุติอนุสยสูตรที่ 2

3. กุลสูตร


[13] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สกุลซึ่งประกอบด้วยองค์ 7
ประการ ภิกษุยังไม่เคยเข้าไป ไม่ควรเข้าไป หรือเข้าไปแล้ว
ไม่ควรนั่ง องค์ 7 ประการเป็นไฉน คือ ต้อนรับด้วยไม่เต็มใจ 1
ไหว้ด้วยไม่เต็ม 1 ให้อาสนะด้วยไม่เต็มใจ 1 ซ่อนของที่มีอยู่ 1
เมื่อมีของมากให้น้อย 1 เมื่อมีของประณีตให้ของเศร้าหมอง 1 ให้
โดยไม่เคารพ ไม่ให้โดยเคารพ 1 ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สกุลซึ่ง
ประกอบด้วยองค์ 7 ประการนี้แล ภิกษุยังไม่เคยเข้าไป ไม่ควร
เข้าไป หรือเข้าไปแล้วไม่ควรนั่ง ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สกุลซึ่ง
ประกอบด้วยองค์ 7 ประการ ภิกษุยังไม่เคยเข้าไป ควรเข้าไป
หรือเข้าไปแล้ว ควรนั่ง องค์ 7 ประการเป็นไฉน คือ ต้อนรับด้วย
เต็มใจ 1 ไหว้ด้วยเต็มใจ 1 ให้อาสนะด้วยเต็มใจ 1 ไม่ซ่อนของที่
มีอยู่ 1 เมื่อมีของมากให้มาก 1 เมื่อมีของประณีตให้ของประณีต 1
ให้โดยเคารพ ไม่ให้โดยไม่เคารพ 1 ก่อนภิกษุทั้งหลาย สกุลซึ่ง
ประกอบด้วยองค์ 7 ประการนี้แล ภิกษุยังไม่เคยเข้าไป ควรเข้าไป
หรือเข้าไปแล้วควรนั่ง.
จบ กุลสูตรที่ 3